http://www.books-forfun.com |
|
สินค้า>
- สนพ. นกฮูก มือสอง > ab0025 |
รูปสินค้า :
|
|
ชื่อสินค้า : |
ทาสเสน่หาดวงใจชีค / อารีญา / สนพ.นกฮูก / มือสอง |
แก้ไขล่าสุด : |
04/05/2014 |
รหัสสินค้า : |
ab0025 |
ราคา : |
ปกติ 155.00 ฿ ลดเหลือ 108.00 ฿ |
ยี่ห้อ : |
|
รุ่น : |
|
รายละเอียด : |
ผู้แต่ง
อารีญา สำนักพิมพ์ หูกระต่าย จำนวนหน้า 192 หน้า
สภาพหนังสือ หนังสือใหม่
กรพินธุ์ เพาะศิลป์ ไม่คิดว่าวันหยุดที่แสนรอคอยหลังจากหมดสัญญาเดินแบบให้กับบริษัทโมเดลลิ่งชื่อดังในยุโรป
แต่กลับต้องมาเจอข่าวการหายตัวไปอย่างลึกลับของ กบินทร์
พี่ชายของเธอและทำให้เธอต้องตามหาเขาในประเทศธาทาเนีย
ซึ่งมีทะเลทรายที่แสนร้อนระอุโอบล้อม เฟล็ตเชอร์
พอลลิสเตอร์ เป็นชื่อหนึ่งในหลายๆ ชื่อของ ชีค มันซูร
แห่งธาทาเนีย
ได้ยินกบินทร์ซึ่งเป็นนักข่าวอิสระและเป็นเพื่อนกับเขาพูดถึงน้องสาวตัวเองบ่อยๆ
แต่ไม่คิดว่ากรพินธุ์จะสวยมากขนาดนี้
นิสัยตรงไปตรงมาและจริงใจผสมกับความงามไร้ตำหนิดึงดูดจิตใจของเขานักนิสัยตรงไปตรงมาและจริงใจผสมกับความงามไร้ตำหนิดึงดูดจิตใจของเขานัก
แต่เพราะความสวยของกรพินธุ์ทำให้เธอถูกลักพาตัวในเขตค้าทาส
และนั่นทำให้ชายหนุ่มรู้ดีว่าจะไม่ยอมให้ใครแตะต้องกรพินธุ์ได้
เขาและเธอจะทำอย่างไรกับหัวใจที่เคยปฏิเสธความรักกลับพร่ำเพรียกหากันอย่างที่ไม่เคยเป็น
เรื่องย่อ ตอนที่ 1. ธาทาเนียประเทศนี้ตั้งอยู่ใจกลางทะเลทรายฮาร่า
ความร้อนระอุรอยขึ้นจากฟุตบาธแล้วอาบไล้ตัวหญิงสาวชาวเอเชียจนเธอรู้สึกวิงเวียน
แม้ว่าเธอจะเดินทางมาจากประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่ามี 2 ฤดูคือร้อนและร้อนที่สุดแต่ก็ไม่เคยรู้สึกร้อนอย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิต
ไม่เคยสูดลมหายใจที่ร้อนผ่าวขนาดนี้เข้าปอด
มันพาลจะทำให้หล่อนรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก
มันมากกว่าที่เธอเคยรับรู้ว่าหลายสิบเท่านั้น
แม้ว่าจะเตรียมใจมาก่อนแล้วแต่หญิงสาวก็เริ่มรู้สึกถึงอุปสรรแรกของการมาเยือนดินแดนทะเลทรายแห่งนี้
กรพินธุ์ เพาะศิลป์ ยืนคอยอยู่หน้าสนามบินอาวาเรียที่อยู่ห่างจากเมืองหลวงของประเทศ
ธาทาเนียไปเพียงไม่กี่ไมล์
ชายในชุดยาวรุ่มร่ามสีขาวและผ้าคลุมศีรษะตามประเพณีเดินถือกระเป๋าเอกสารผ่านหน้าเธอไป
สายตามองมาเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแสนหยาบคาย ศลิษาเป็นคนสูงและมีช่วงขาเพรียวสวยตามลักษณะของคนเป็นนางแบบที่ตลาดแฟชั่นต้องการ
ผมสีดำนิลยาวเกือบถึงเอวถูกดึงรวบขึ้นแล้วมัดทิ้งเป็นพวงหางม้าไว้ทางด้านหลังช่างตัดกับผิวขาวอมชมพูของเธอซึ่งกลายเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งยามอยู่แคทวอร์ค
ขาของเธอก็เปลือยเช่นเดียวกับแขนแม้ว่าชุดซันเดรสกระโปรงบานสีครีมยาวจรดเข่าจะเรียบร้อยพอสมควรด้วย
แต่สายตาหยาบคายของชายผู้นี้ทำให้เธอเหมือนหล่อนกำลังเปลือยกายอยู่ จะมองอะไรกันนักหนานะ ไม่ใช่ปลาทองนะยะ! กรพินธุ์
ค่อนว่าอยู่ในใจแล้วหรี่ตาสีดำมองกลับอย่างท้าทายเงียบๆ ทว่ามันไร้ผล
หญิงสาวถอนหายใจเบาๆ น่าจะอ่านบทความเกี่ยวกับประเทศนี้ก่อนเดินทางมาที่นี่
เห็นได้ชัดว่าหล่อนกำลังผจญกับวัฒนธรรมประเพณีที่ย้อนหลังกลับไปเมื่อพันปี่ที่แล้วช่างทำตัวไม่สมกับเป็นน้องสาวของ
กบินทร์ เพาะศิลป์ นักข่าวอิสระผู้ได้ชื่อว่าบุกป่าฝ่าดงกระสุนมานับไม่ถ้วยแล้ว
และแน่นอที่สุดว่านางแบบสุดฮอตอย่างเธอคงจะไม่วันมาสถานที่แบบนี้แน่
ถ้าไม่ใช่เพราะพี่พญาลิงของเธอละก็ เธอไม่มีวันเหยียบย่างมาที่นี่อย่างแน่นอน พี่ลิงของฉันอยู่ไหนหนอ!
ถ้าพี่กลับมาอย่างปลอดภัยน้องจะยอมเรียกพี่กบินทร์ไม่เรียกพญาลิงอีกแล้ว กรพินธุ์ ถอนหายใจนับครั้งไม่ถ้วนแล้วก่อนจะทรุดกายลงนั่งหมิ่นๆ
บนกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ระหว่างรอให้แท็กซี่โฉบผ่านมา
เธอพยายามโกรธพี่ชายตัวเองให้มากๆ เผื่อว่าความกลัวที่มีมันจะลดลงด้วย
ตั้งแต่พ่อและแม่จากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ตอนที่เธออายุเพียง12 ปี ก็มีแต่พี่ชายที่แก่กว่า 5 ปีคนนี้คอยดูแล
ตอนนั้นพี่ชายเธอต้องลาออกจากโรงเรียนมัธยมแล้วมาเรียนปวช.แทนเพื่อที่จะให้เธอได้เรียนหนังสือสบายขึ้น
แต่นั้นก็ทำให้พี่ชายมีภาพลักษณ์เป็นนักเลงหัวไม้ไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ
แต่ก็อีกนั้นแหละที่มันทำให้พี่ชายเธอชื่นชอบการเป็นนักข่าวไปด้วย ส่วนเธอนะเหรอ?
จะเรียกว่าอะไรดีละ เพราะพี่ชายเป็นห่วงน้องเลยจับไปฝึกศิลปะป้องกันตัวจนแข้งขายาวซึ่งก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันไหมแต่ที่แน่ๆ
ตอนที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยมีแมวมองมาสนใจเพราะตอนนั้นเธอแข่งยูโดในฐานะตัวแทนของมหาวิทยาลัย
แม้การแข่งขันครั้งนั้นเธอจะได้เพียงลำดับที่ 4 ไร่เหรียญรางวัลแต่กลับได้เข้าวงการแฟชั่นแทน
กรพินธุ์ไม่ได้หลงใหลอาชีพนี้เท่าใดนักหรอก
แต่มันก็ช่วยไม่ได้นี่ในเมื่อชีวิตเธอจำเป็นต้องใช้เงินเป็นค่าใช้จ่ายแต่ละวัน,ค่าเทอมของเธอด้วยและมันก็ช่วยแบ่งเบาพี่ชายปากร้ายของเธออีกทางหนึ่ง
ทำให้พี่พญาลิงหรือพี่กบินทร์ได้โบยบินในเส้นทางสายนักข่าว แต่เมื่อสองวันที่แล้วนี้หล่อนยังนั่งอยู่ในบ้านไม้หลังเล็กแสนสุขของเธอในชานเมืองกรุงเทพฯ
เป็นสิ่งเดียวที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ก่อนจากไป
บ้านที่ห้อมล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาเย็นใจ
เธอเพิ่งได้หยุดพักหลังจากเสร็จสิ้นสัญญาการทำงานให้บริษัทโมเดลลิ่งที่เธอสังกัดอยู่
และไม่คิดจะต่อสัญญาในตอนนี้
เธอไม่ได้อยากยึดมันเป็นอาชีพถาวรแต่ก็คิดอยู่ว่าจะไปสมัครสอบเป็นแอร์โฮสเตส
หรือไม่ก็อยากเปิดร้านขายดอกไม้
แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็ต้องหอบหิ้วกระเป๋าบินข้ามน้ำข้ามทะเลมายังธาทาเนียซะแล้ว!
กรพินธุ์ ยกหลังมือขึ้นปาดเหงื่อออกจากหน้าผากแล้วหลับตาอย่างเหนื่อยอ่อนพลางนึกถึงเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นในวันหนึ่งที่เธอเพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่น
สวัสดีค่ะ มิสกรพินธุ์ เพาะศิลป์?
เสียงแปร่งๆ สำเนียงฝรั่งเลียนเสียงไทยดังขึ้นในสาย ใช่ค่ะ ผมมีข่าวของพี่ชายคุณ คำพูดของชายผู้ที่ไม่ได้แนะนำตัวเองเรียกความสนใจจากเธอได้ในทันที
พี่กบินทร์ไปที่ตะวันออกกลางเป็นเวลาเดือนเศษแล้ว
เขาไปเพื่อเขียนเรื่องให้กับนิตยสารฉบับหนึ่งที่เขาทำงานอยู่ด้วย
และถ้าจำไม่ผิดเมื่อสองอาทิตย์ก่อนเขาโทรมาหาเธอแล้ว
ถามว่าเธออยู่ไหนเมื่อไหร่จะเสร็จงาน เขาอยากชวนเธอไปเปิดหูเปิดตาที่ธาทาเนีย
แต่เธอเหนื่อยเรื่องการเดินทางเกินกว่าจะคิดไปเที่ยวไหน
เขาจึงสัญญว่าจะกลับมาฉลองวันเกิดปีที่ 24 ให้เธอที่เมืองไทยพร้อมภาพเด็ดๆ
ที่ครั้งนี้เขาอาจจะเปิดแสดงภาพถ่ายของตนเองเป็นครั้งแรกก็ได้ กรพินธุ์
เข้าใจพี่ชายตัวเองดี เขาไม่เคยเลี้ยงเธอแบบ เจ้าหญิงน้อย
แต่เลี้ยงเธอให้กล้าแกร่งแบบที่จะอยู่ในสังคมที่เต็มไปด้วยเสือสิงห์กระทิงแรดได้
และเธอเองก็เคยชินกับความเหลวไหลในเรื่องของเวลาของพี่ชายเสมอ
ดังนั้นเมื่อเวลาผ่านไปสองสามวันโดยไม่มีแม้แต่เงาของพี่พญาลิง กรพินธุ์
จึงไม่วิตกอะไรนักแต่เมื่อสองสามวันผ่านเลยไปกลายเป็นอาทิตย์เธอก็ชักเริ่มกังวลแต่ก็ยังไม่ได้คิดจะตามหา
แต่เมื่อถึงตอนนี้เวลาก็เลยไปเป็นสองอาทิตย์เธอเริ่ม โทรติดต่อหาเขาไม่ได้
ลางสังหรณ์ของที่บีบหัวใจของตัวเองทำให้เธอกังวลจนวันที่มีโทรศัพท์แปลกๆ เข้ามา
กรพินธุ์กำหูโทรศัพท์ที่แนบอยู่กับหูเอาไว้แน่น มีเรื่องอะไรคะ
พี่กบินทร์เป็นอะไร? ดูเหมือนว่าเขาจะหายตัวไป อะไรนะคะ ? เราหาตัวเขาไม่เจอ เราคือใครคะ แล้วคุณเป็นใครกัน? ขอโทษครับ
ผมทำงานอยู่กับสถานทูตไทยในประเทศธาทาเนีย ออกจะนานอยู่สักหน่อยนะคะกว่าที่คุณจะโทรกลับหาฉันได้
เราต้องการตรวจสอบให้แน่ใจเสียก่อนที่จะติดต่อหาคุณ แล้วคุณพบอะไรบ้าง? ก่อนหน้านี้เขาอยู่ในเมืองจริง
พักที่โรงแรมฮันนีแต่เขาเช็คออกจากโรงแรมเมื่อห้าวันก่อนโดยไม่ได้บอกว่าจะไปที่ไหนต่อ
ถ้าอย่างนั้นเขาก็น่าจะเดินทางมาถึงเมืองไทยแล้ว อาจจะใช่ ขอโทษนะคะ ถ้าเขากลับมาจริง เขาก็น่าจะถึงที่นี่ตั้งนานแล้ว
เพราะเขาคงไม่ได้เดินเท้ามาแน่
แล้วนี่คุณตรวจรายชื่อผู้โดยสารขาออกกับทางสายการบินหรือยังคะ? แน่นอนครับ และผลคือ? ไม่มีชื่อของเขา
ถ้าเช่นนั้นเขาก็ต้องอยู่ในธาทาเนีย เราไม่คิดอย่างนั้น
ไม่มีใครเห็นเขา เป็นไปได้มากว่าเขาเดินทางออกจากประเทศโดยรถยนต์และออกจากเมืองอื่น
มันจะเป็นไปได้ยังไงคะ
ในเมื่อเขาบอกฉันว่าเขาจะตรงจากธาทาเนียกลับมาเมืองไทย
นี่เราอยู่ไกลกันข้ามทวีปเชียวนะคุณ! พี่ชายคุณเป็นนักข่าวอิสระนะครับ
อีกฝ่ายพูดเหมือนเตือน ใครๆ
ก็รู้ว่าพวกนี้ชอบตามข่าว ซึ่งเขาบอกกับคนที่โรงแรมไว้อย่างนั้น บอกกับใครคะ? อย่างน้อยก็กับเจ้าหน้าที่โรงแรมคนหนึ่ง
|
ลิงค์ : |
|
| |
 |
| | |