โอ้องค์เทพีรัศมีจันทร์ ธิดาแห่งโอสิริส องค์สุริยาเทพและเทพีอิซิส พระแม่ผู้เปรียบประดุจดวงจันทร์อันไร้มลทิน ณ ยอดแห่งพีระมิดสูงเสียดฟ้าผาแห่งผู้พิทักษ์ตระหง่านง้ำ และสฟิงซ์ ผู้กำความลับแห่งทะเลทรายไว้ชั่วนิรันดร มีดินแดน รุไบยา ที่ปกครองบนความเป็นปึกแผ่นของห้าผู้ยิ่งใหญ่ และหนึ่งในห้าของข่านคือ สุลต่าน ผู้ถืออำนาจรัฐสูงสุด หากเหนือกว่านั้น ดั่งเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคนเหนือกว่า เหนือแผ่นดินรุไบยา คุณอาจล้มการปกครอง ระบอบการเมือง อำนาจ ราชศักดิ์ หรืแม้แต่สุลต่าน! ยกเว้น สิ่งเดียว! ศรัทธา ยกเว้นสิ่งเดียว! ศรัทธาในหัวใจคน! ไม่มีใครหรอกที่จะชนะองค์รัศมีจันทร์! รัศมีจันทร์ผู้หญิงคนหนึ่งหรือเทพเจ้าอย่างเขากล่าวขวัญกันหนอ ถ้าเธอเป็นมนุษย์ทำไมกำหนดความเป็นความตายให้แก่มนุษย์ด้วี้ทรงอำนาจเพราะกุมความลับเกี่ยวกับขุมทรัพย์ไว้มากมาย ขุมทรัพย์ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นทะเลทรายอันกว้างใหญ่ไพศาล ขุมทรัพย์ที่จะก่อให้เกิดขุมกำลังอันยิ่งยวดเช่นกัน เล่ากันว่า กองพันปีศาจ ขององค์รัศมีจันทร์ สามารถเคลื่อนไหวได้ดั่งปีศาจสมชื่อ แสนยานุภาพเกรียงไกรทั่วท้องทะเลทราย ทั้งยามสงบและพายุกระหน่ำกองกำลังเคลื่อนที่เร็วไปได้ชนิดไม่มีกองทัพของสมาพันธรัฐใดทำได้เฉกเดียวกับที่ศรัทธาในองค์รัศมีจันทร์นั้นเป็นหนึ่งเดียวหยั่งรากลึก มั่นคง! ไม่มีใครทำลาย ไม่มีใครล้มล้างหรือลอกเลียนได้! โอ้องค์เทพีรัศมีจันทร์ ธิดาแห่งโอสิริส องค์สุริยเทพและเทพีอิซิส โอ้พระแม่ผู้เปรียบประดุจดวงจันทร์อันไร้มลทิน ผู้ทรงกรุณาภาพ แด่ชาวโลกไม่เลือกหน้า โอ้ชีวิตข้าบาทเจ้าทั้งหลาย อยู่ใความเป็นและความตาย ตลอดชั่วกาลนาน อับดุลลาและเจ้าหญิงเอลยาต่างรู้จัก องค์รัศมีจันทร์ ลึกซึ้งในที่สุด และสงครามสุดท้ายเกมแห่งอำนาจที่จะพิสูจน์ว่าเหนือสิ่งอื่นใดคือสันติสุขเป็นของชาวรุไบยา หรือเพื่อชัยชนะของใคร ถึงหาก การเมือง จะทำให้ต้องแยกความเห็นจากกัน การเมือง ก็ไม่ควรจำแยกเลือดเนื้อทั้งสองฝ่ายจากกัน! ปลายปากกา ลักษณวดี จึงมาเล่าขาน รัศมีจันทร์ ให้คุณฟัง ข้ารู้ข้าเห็นถึงสิ่งที่เกิด ณ ที่นี้นับด้วยพันปีเจ้าหญิงโฉมงามเคยเสด็จผ่านมา และเจ้าชายผู้ทรงศักดิ์เคยมาพำนักภายใต้ร่มเงาของข้า ข้าจะยังได้เห็นต่อไป